วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558

ใบงานที่ 5

การเขียนผังงานคือ…




 ความหมายของผังงาน 

ผังงาน (Flowchart) คือ แผนภาพแสดงลำดับขั้นตอนการทำงาน เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวางแผนขั้นแรกมาหลายปี โดยใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ ในการเขียนผังงาน เพื่อช่วยลำดับแนวความคิดในการเขียนโปรแกรม เป็นวิธีที่นิยมใช้เพราะทำให้เห็นภาพในการทำงานของโปรแกรมง่ายกว่าใช้ข้อความ หากมีข้อผิดพลาด สามารถดูจากผังงานจะทำให้การแก้ไขหรือปรับปรุงโปรแกรมทำได้ง่ายขึ้น

สัญลักษณ์ที่ใช้ในการเขียนผังงาน...




การเขียนผังงาน...



หลักการนำสัญลักษณ์ต่างๆ มาเขียนเป็นผังงาน (Flowchart)

เมื่อเรารู้และสามารถจำความหมายต่างๆ ของสัญลักษณ์ได้แล้ว ถัดมาเราจะมาดูกันว่าสัญลักษณ์ต่างๆ เหล่านี้มีรูปแบบการใช้แบบไหน จากรูปต่อไปนี้คือการนำสัญลักษณ์ต่างๆ ไปใช้เขียนเป็นผังงาน (Flowchart) ครับ






EXAMPLE

Flowchart ตัวอย่างการใช้งานสัญลักษณ์






แหล่งที่มา : https://sites.google.com/site/programmingm42/kar-kheiyn-phang-ngan-flowchart  and
http://www.training.ami-solution.com/ami-knowledge/knowledge.php?cntid=71#.VRtQ6SOzJNc







วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2558

ใบงานที่ 4

1.-การถ่ายทอดความคิดในการแก้ปัญหาด้วยอัลการิทึม(การเขียนรหัสจำลอง) หมายถึง
อัลกอริทึม (Algorithm) คือ กระบวนการ การทำงานที่ใช้การตัดสินใจ โดยนำหลักเหตุผลและคณิตศาสตร์มาช่วยเลือกวิธีการหรือขั้นตอนการดำเนินงานต่อไป จนกระทั่งถึงขั้นตอนสุดท้าย เป็นวิธีการที่ใช้แยกย่อยและเรียงลำดับขั้นตอนของกระบวนการในการทำงานต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาและแก้ไขปัญหา


 2.-เครื่องมือที่ใช้ในการจำลองความคิด

        

การจำลองความคิดเป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนของการเลือกเครื่องมือและการออกแบบขั้นตอนวิธี
อาจจะออกมาในรูปแบบข้อความ หรือแผนภาพ เพื่อช่วยให้การแก้ปัญหาเป็นไปในทางเดียวกัน
ซึ่งพอจะสรุปได้ 2 ลักษณะ คือ

      1. ข้อความหรือคำบรรยาย เป็นการเขียนเค้าโครงการบรรยายเป็นภาษาที่มนุษย์ใช้สื่อสารกัน
เพื่อให้ทราบถึงขั้นตอนการทำงานของโปรแกรมแต่ละตอน ในบางครั้งอาจใช้คำสั่งของภาษา
ที่ใช้เขียนโปรแกรมได้

    ตัวอย่างที่ 1 การจำลองความคิดในการวางแผนไปโรงเรียน
        เริ่มต้น
             ตื่นนอน
             อาบน้ำแต่งตัว
            ไปโรงเรียน
        จบ 

    ตัวอย่างที่ 2  การจำลองความคิดในการหาผลบวก เลข 1 -  20
        เริ่มต้น
            1. กำหนดให้ N มีค่าเริ่มต้นเป็น 0
            2. กำหนดให้ K มีค่าเริ่มต้นเป็น 1
            3. นำค่า K มารวมกับค่า K เดิม ได้ผลลัพธ์เท่าไรไปเก็บไว้ที่ N
            4. นำค่า 1 มารวมกับค่า K เดิม ได้ผลลัพธ์เท่าไรไปเก็บไว้ที่ K
            5. เปรียบเทียบค่า K กับ 20 ถ้า K น้อยกว่าหรือเท่ากับ 20
                ให้วนกลับไปทำในขั้น 3 และทำคำสั่งถัดลงมาตามลำดับ
                แต่ถ้า K มากกว่า 20 แสดงว่าได้คำตอบ
        จบ

       2. สัญลักษณ์ เครื่องหมายรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งใช้สำหรับสื่อความหมายให้เข้าใจตรงกัน
โดยมีรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้
สัญลักษณ์ที่ใช้ในการออกแบบโปรแกรมหรือการเขียนผังงาน
เริ่มต้นและลงท้าย (terminal)
แทนจุดเริ่มต้นและลงท้ายผังงาน
การปฏิบัติงาน (process)
แทนจุดที่มีการประมวลผลคำสั่งใด ๆ
การตัดสินใจ (dicision)
แทนจุดที่เป็นเงื่อนไข ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
การนำข้อมูลเข้า - ออกโดยทั่วไป
(general input/output)
แทนจุดที่จะนำข้อมูลเข้าหรือออกจากระบบคอมพิวเตอร์
การแสดงข้อมูล (display)
แทนจุดที่แสดงข้อมูลทางจอภาพ
การทำเอกสาร (document)
แทนจุดที่แสดงข้อมูลทางเครื่องพิมพ์
จุดเชื่อมต่อ (connector)
แทนจุดเชื่อมต่อของผังงาน
ทิศทาง (flow line)
แทนทิศทางการทำงาน ซึ่งขึ้นอยู่กับหัวลูกศร
***สัญลักษณ์เหล่านี้เป็นเพียงบางส่วนที่เรามักพบเห็นเป็นประจำ ในการเขียนผังงานเท่านั้น

การใช้สัญลักษณ์
คือ การนำเอาสัญลักษณ์ต่าง ๆ มาแทนความหมายและขั้นตอนการทำงานของคอมพิวเตอร์
หรือลำดับคำสั่ง เมื่อจะเขียนโปรแกรมควรทราบวิธีการใช้สัญลักษณ์เพื่อให้เข้าใจไปในทางเดียวกัน

ทิศทางการเคลื่อนที่ ปกติใช้เส้นตรงประกอบกับหัวลูกศรแสดงทิศทางการเคลื่อนที่
ในบางกรณีที่ไม่มีหัวลูกศรประกอบ ให้ถือทิศทางการเคลื่อนที่จากบนลงล่างหรือจากซ้ายไปขวา

การเชื่อมต่อระหว่างจุด  เพื่อแสดงจุดที่จะต้องปฏิบัติร่วมกันาจเขียนหัวลูกศรของทิศทาง
ให้มาบรรจบกัน หรือใช้สัญลักษณ์แสดงจุดเชื่อมต่อเพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทิศทางตัดกันก็ได้

การเชื่อมต่อหน้ากระดาษ   เพื่อแสดงจุดที่จะต้องปฏิบัติลำดับต่อไปที่ไม่ได้อยู่หน้าเดียวกัน
ควรใช้สัญลักษณ์แสดงจุดเชื่อมต่อหน้ากระดาษ

จุดที่ใช้สัญลักษณ์ในการตัดสินใจกรณีที่มีการกำหนดเงื่อนไข ต้องเขียนให้ชัดเจนว่า
ถ้าเป็นไปตามเงื่อนไขใด ก็ให้ทำกิจกรรมซ้ำอีก จนกว่าจะตรวจสอบว่าไม่ตรงตามเงื่อนไข
จึงกำหนดให้ไปทำงานในลำดับอื่นต่อไป

โปรแกรมโครงสร้าง คือ โปรแกรมที่ใช้รูปแบบพื้นฐานที่แสดงลำดับขั้นตอนการทำงาน
ของโปรแกรม ซึ่งกำหนดไว้เป็น 3 รูปแบบ ได้แก่

1. รูปแบบลำดับ 
     ขั้นตอนการทำงานที่เป็นไปตามลำดับก่อนหลัง แต่ละขั้นตอนจะถูกประมวลผลเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

2. รูปแบบทางเลือก
      โครงสร้างที่ต้องมีการตัดสินใจเลือกวิธีการประมวลผลขั้นต่อไป และจะมีบางขั้นตอนไม่ได้รับ
การประมวลผล ซึ่งอาจมีทางเลือก 2 ทางหรือมากกว่าก็ได้

3. รูปแบบทำซ้ำ  
      โครงสร้างที่มีขั้นตอนการทำงานบางขั้นตอนได้รับการประมวลผลมากกว่า 1 ครั้ง
แบบที่ 1 ตรวจเช็คเงื่อนไขก่อนแล้วจึงดำเนินการต่อไป
แบบที่ 2 ดำเนินการก่อนแล้ว ทำการตรวจเช็คเงื่อนไขทีหลัง


3.-รหัสลำลอง

รหัสลำลองหรือ pseudocode เป็นคำบรรยายที่เขียนแสดงขั้นตอนวิธี(algorithm) ของการเขียนโปรแกรม โดยใช้ภาษาที่กะทัดรัด สื่อสารกับโปรแกรมเมอร์ผู้เขียนโปรแกรม โดยอาจใช้ภาษาที่ใช้ทั่วไปและอาจมีภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมประกอบ แต่ไม่มีมาตรฐานแน่นอนในการเขียน pseudocode  และไม่สามารถนำไปทำงานบนคอมพิวเตอร์โดยตรง(เพราะไม่ใช่คำสั่งในภาษาคอมพิวเตอร์) และไม่ขึ้นกับภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาใดภาษาหนึ่ง นิยมใช้ pseudocode แสดง algorithmมากกว่าใช้ผังงาน เพราะผังงานอาจไม่แสดงรายละเอียดมากนักและใช้สัญลักษณ์ซึ่งทำให้ไม่สะดวกในการเขียน เช่นโปรแกรมใหญ่ ๆ มักจะประกอบด้วยคำสั่งต่างๆที่ใกล้เคียงกับภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมจริงๆ เช่น begin…end, if…else, do…while, while, for, read และ print การเขียนรหัสจำลองจะต้องมีการวางแผนสำหรับการอ้างอิงถึงข้อมูลต่างๆที่จะใช้ในโปรแกรมด้วยการสร้างตัวแปร โดยใช้เครื่องหมายเท่ากับ (=) แทนการกำหนดค่าให้กำหนดตัวแปรนั้น




แหล่งที่มา : http://krunes.maepa.org/teach/Program/P_3.html
 AND https://sites.google.com/site/dutchyycom1gp/home/kar-thaythxd-khwam-khid-ni-kar-kaekhi-payha

วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2558

ใบงานที่ 3

กระบวนการ เทคโนโลยีสาระสนเทศ



หมายถึง
 กระบวนการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล
เพื่อกระทำให้เป็นสารสนเทศ  การจัดเก็บและการนำเสนอสารสนเทศให้เป็นปัจจุบันทันต่อเหตุการณ์

 กระบวนการเทคโลยีสารสนเทศ
มีขั้นตอน ขั้นดังนี้
 1.การรวบรวมข้อมูล
 2 การตรวจสอบข้อมูล
 3การประมวลผลข้อมูล
 4การจัดเก็บข้อมูล
 5การคิดวิเคราะห์
 6การนำข้อมูลไปใช้


ประโยชน์ของสารสนเทศ
           1. ใช้ในการวางแผนการบริหาร
           2. ใช้ประกอบการตัดสินใจ
           3. ใช้ในการควบคุมสถานการณ์ หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
           4. เพื่อให้การบริหารงานมีระบบ ลดความซ้ำซ้อน
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
 เหมาะกับระบบงานที่ต้องทำงานอย่างใดอย่างหนึ่ง  และมีปริมาณงานมากหรืองานที่ต้องการความรวดเร็ว ในการคำนวณเกินกว่าคนธรรมดาจะทำได้
       วิธีการโดยทั่วไป คือ ปรับเปลี่ยนวิธีการหรือระบบการทำงานแบบเดิม มาใช้ระบบงานที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ช่วยทำงานเป็นบางส่วน หรือทั้งหมด เท่าที่สามารถจะทำแทนคนได้
 ดังนั้น การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ จึงต้อง
มีการสร้างระบบงานคอมพิวเตอร์ขึ้นมาช่วยทำงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วิธีการโดยทั่วไป เราอาจไม่ต้องสร้างระบบงานทั้งหมดขึ้นใหม่ แต่พัฒนาระบบงานเดิมให้เป็นระบบงานที่
ทำงานโดยคอมพิวเตอร์นิยมเรียกกันว่า การพัฒนาระบบงานคอมพิวเตอร์


แหล่งอ้างอิง : https://sites.google.com/site/nanpua/krabwnkar-thekhnoloyi-sara-snthes














ใบงานที่1

1. ภาษา HTML หมายถึงอะไร

ตอบ  ภาษาหลักที่ใช้ในการเขียนเว็บเพจ โดยใช้ Tag ในการกำหนดการแสดงผล HTML ย่อมาจากคำว่า Hypertext Markup Language โดย Hypertext หมายถึง ข้อความที่เชื่อมต่อกันผ่านลิ้ง (Hyperlink) Markup language หมายถึงภาษาที่ใช้ Tag ในการกำหนดการแสดงผลสิ่งต่างๆที่แสดงอยู่บนเว็บเพจ ดังนั้น HTML จึงหมายถึง ภาษาที่ใช้ Tag ในการกำหนดการแสดงผลเว็บเพจที่ต่างก็เชื่อมถึงกันใน Hyperspace ผ่าน Hyperlink นั่นเอง

2.โปรแกรมที่ใช้สร้างเว็บเพจด้วยภาษา HTML มีโปนแปรมใดบ้าง 

ตอบ       2.1) Notepad 


               2.2) Edit Plus


ใบงานที่ 2


1. ภาษาคอมพิวเตอร์ หมายถึง  


          ภาษาใดๆที่ผู้ใช้งานใช้สื่อสารกับคอมพิวเตอร์ หรือคอมพิวเตอร์ด้วยกัน แล้วคอมพิวเตอร์สามารถทำงานตามคำสั่งนั้นได้ คำนี้มักใช้เรียกแทนภาษาโปรแกรม แต่ความเป็นจริงภาษาโปรแกรมคือส่วนหนึ่งของภาษาคอมพิวเตอร์เท่านั้น และมีภาษาอื่นๆที่เป็นภาษาคอมพิวเตอร์เช่นกันยกตัวอย่างเช่น HTML เป็นทั้งภาษามาร์กอัปและภาษาคอมพิวเตอร์ด้วย แม้ว่ามันจะไม่ใช่ภาษาโปรแกรม หรือภาษาเครื่องนั้นก็นับเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ ซึ่งโดยทางเทคนิคสามารถใช้ในการเขียนโปรแกรมได้ แต่ก็ไม่จัดว่าเป็นภาษาโปรแกรม

2. ภาษาคอมพิวเตอร์ มีกี่ระดับ อะไรบ้าง

        
     1. ภาษาระดับต่ำ (Low Level Language) เป็นภาษาที่มนุษย์ทำความเข้าใจได้ยาก ส่วนใหญ่ต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ และฮาร์ดแวร์เป็นอย่างดีจึงจะสามารถ
เขียนโปรแกรมสั่งงานได้มีข้อดีในส่วนที่เขียนโปรแกรมควบคุมอาร์ดาแวร์แต่ละส่วนได้โดยตรงจึงทำงานได้เร็ว แต่ไม่เหมาะที่จะใช้ในการพัฒนาโปรแกรม ตัวอย่างของภาษาระดับต่ำได้แก่ ภาษาเครื่อง (Machine Language) และภาษาแอสเซมบลี (Assembly Language) เป็นต้น

     2. ภาษาระดับกลาง (Medium Level Language) เป็นภาษาที่ทำความเข้าใจได้ไม่ยากนัก เพราะมีลักษณะ เป็นภาษาแบบโครงสร้าง ทำความเข้าใจได้เหมือนกับภาษาระดับสูงแต่ทำงานได้รวดเร็ว
เหมือนกับภาษาระดับต่ำ สามารถใช้บนเครื่องที่มีความเร็วต่างกันโดยไม่ต้องดัดแปลง ภาษาระดับกลางจึงเป็น
ที่นิยมใช้กันแพร่หลาย ตัวอย่างของภาษาระดับกลาง ได้แก่ ภาษาซี เป็นต้น

     3. ภาษาระดับสูง (High Level Language) เป็นภาษาที่ทำความเข้าใจได้ง่าย มีลักษณะของ
การใช้คำสั่งเป็นภาษาอังกฤษซึ่งใกล้เคียงกับภาษามนุษย์มากการสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานจะต้องมีการแปล
ความหมายของคำสั่งโดยใช้ตัวแปลภาษาทีละชุดคำสั่งที่เรียกว่า Interpreter หรือแปลครั้งเดียวทั้งโปรแกรม
ที่เรียกว่า Compiler 



3.จงเขียนชื่อภาษาคอมพิวเตอร์ มา 5 ชื่อ
     
        1. Java

     2.C++

     3.SQL


     4.Python


     5.Ruby

วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558

ประวัติ

ชื่อ นาย ชิษณุพงศ์  ศรีรักษา (ริว)  อายุ.16

เกิดวันที่.23 / 7 / 2541 (1998)

ที่อยู่ 176/6 ถ.สุขุมวิท ต.มาบตาพุท อ.เมือง จ.ระยอง 21150

Facebook : Irew Chitsanupong